มหกรรมกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ที่เริ่มจัดแข่งตั้งแต่ ค.ศ. 1896 มีกีฬายิงปืนบรรจุไว้เสมอมา (ยกเว้นปี 1904, 1928) มีทั้ง ปืนสั้น, ปืนยาว และปืนลูกซอง กติกาการแข่งขันปรับเปลี่ยนตามความนิยมของยุคสมัย โดยมีสมาพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาติ คือ ISSF (International Shooting Sport Federation) เป็นองค์กรควบคุม
กีฬายิงปืนไทย สมัยหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรายอมให้เอกชนครอบครองปืนได้ตามกฎหมาย ในยุคที่รุ่งเรืองถึงที่สุดนั้น ไทยเคยกวาดเหรียญทองครบทุกประเภทในกีฬาซีเกมส์มาแล้ว แต่ในระดับโอลิมปิก ยังไม่ประสบความสำเร็จถึงระดับรับเหรียญ ล่าสุดนี้ในการแข่งขันที่ รีโอเดจาเนโร นักยิงปืนจากเวียดนาม เพื่อนบ้านอาเซียนของเรา คือ หวางซุนวิน (Hoang Xuan Vinh) สร้างประวัติศาสตร์ ชนะเลิศประเภทปืนสั้นอัดลมชาย เป็นนักกีฬาชาติอาเซียนคนแรกที่ได้เหรียญทองยิงปืนโอลิมปิก และเป็นเหรียญแรกของเวียดนามหลังจากร่วมแข่งมากว่า 50 ปี
ปืนสั้นอัดลมชาย ยิงจากระยะ 10 เมตร รอบคัดเลือก 60 นัด คะแนนเต็ม 600 ให้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที คัด 8 อันดับแรกเข้ายิงในรอบไฟนัล (Final) เริ่มนับคะแนนกันใหม่ ไม่นำคะแนนรอบคัดเลือกมารวม ในการแข่งที่ รีโอ นี้ ปังเว่ย (Pang Wei) จากจีน ทำคะแนนสูงสุดคือ 590,หวางมาที่ 4 ด้วยคะแนน 581 จากนั้นที่ 5 ถึง 8 คะแนนเท่ากันคือ 580 โดยมี เฟลิเป วู (Felipe Wu) นักกีฬาเจ้าภาพ อยู่อันดับ 7
การยิงในรอบไฟนัล เป้าระบบอิเล็ก ทรอนิกส์จะให้คะแนนมีจุดทศนิยม เช่น แตะเส้น 9 ได้คะแนน 9.0 จนเกือบ ๆ แตะเส้น 10 ได้ 9.9 จนถึงสูงสุดเข้ากลางเป้า เป๊ะ ๆ ได้ 10.9 การยิงเริ่มจากให้ทั้ง 8 คนยิงชุดละ 3 นัด ในเวลา 150 วินาที 2 ชุด 6 นัด จากนั้นยิงทีละนัดในเวลา 50 วินาที และทุก ๆ 2 นัด จะตัดคนที่คะแนนต่ำสุดออก คนที่ได้อันดับ 8 จึงได้ยิงเพียง 8 นัด, อันดับ 7 ยิง 10 นัด ไล่ไปจนถึง 16 นัด เหลือเพียง 3 คนที่จะได้เหรียญ คือ หวางซุนวิน, เฟลิเป วู และ ปังเว่ย พอยิงนัดที่ 17, 18 แล้ว ปังเว่ยหลุดไปรับเหรียญทองแดง เหลือ หวาง กับ วู คะแนน 182.6 กับ 181.8 ห่างกันเพียง 0.8 คะแนน
นัดที่ 19 วู ยิงก่อน ได้คะแนนบนจอ 10.2 หวางยิงไม่ดี กระสุนกินต่่ำเกาะเส้น 9 ล้ำเข้าไปเพียงครึ่งหัวกระสุน ได้ 9.2 รวมคะแนนแล้ว วู พลิกขึ้นนำ 0.2 คะแนน 192.0 ต่อ 191.8 มาตัดสินกันที่นัดสุดท้าย วูยิงเกาะเส้น 10 ได้ 10.1 ซึ่ง หวาง ต้องยิงอย่างน้อย 10.4 คือเข้า 10 แตะวง “เอ็กซ์” ตรงกลางถึงจะเอาชนะได้ นัดนี้กองเชียร์กลั้นใจดู หวาง ถือปืนเล็งนานกว่าครึ่งนาทีปืนจึงลั่น ผลออกมา 10.7 เข้ากลางเกือบเต็ม ชนะไปเพียง 0.4 คะแนน รวม 20 นัด 202.5 เป็นสถิติใหม่ของโอลิมปิกในรอบไฟนัล
ทางด้านของตัวปืน ทั้งหวัง และ วู ใช้ โมรินี รุ่น CM 162E ไกไฟฟ้า ในขณะที่ ปังเว่ย ใช้ สไตเออร์ LP10 ทั้งสองยี่ห้อใช้ระบบอากาศอัดความดันสูงในหลอดใต้ลำกล้อง มีคอมเพนเซเตอร์ปลายลำกล้องเบี่ยงทิศทางลมที่ขับดันกระสุน ให้พ่นขึ้นด้านบนช่วยกดปืนไม่ให้กระดก สไตเออร์มีก้อนน้ำหนักวิ่งย้อน เพื่อหักล้างกับน้ำหนักกระสุนที่วิ่งไปด้านหน้า ทำให้ปืนนิ่งสนิทขณะกระสุนลั่น มีอีกหลายยี่ห้อที่ใช้ระบบนี้ ซึ่งโมรินียังเห็นว่าไม่จำเป็น ปืน CM 162E เริ่มขายตั้งแต่ปี 1991 เทียบกับคู่แข่งอาจจะดูว่าโบราณ แต่ผลงานล่าสุดพิสูจน์ได้ว่ายังไม่ล้าสมัย.
.............................................
ดร.พณิศวร ชำนาญเวช...
เสาร์ที่ 3 กันยายน 2559 เวลา 04.00 น.
ที่มา http://www.dailynews.co.th/
สั้นอัดลมโอลิมปิก โมรินี CM 162E... อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/521117
http://www.morini.ch/product_det.php?id=1
0 comments:
Post a Comment